Custom Search

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

แนวทางการเรียนสู่ CG artist

อ่านในหนังสือ essential Zbrush มีส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมนึกถึงตัวเอง ในการเรียนรู้ที่จะเป็น CG artists เมื่อหลายปีก่อน โดยพูดถึงการเรียนเพื่อเป็น CG artists มี 5 วิธี(Robson,3,2008)

  1. Learn by yourself without any outside help พวกนี้เห็นเยอะในรุ่นเก๋าๆ ของประเทศไทยคือหัดเล่นกันตั้งแต่ 3d คืออะไร เล่นกันในตั้งแต่ในสมัย 3ds maxอยู่ใน DOS เพื่อนผมที่เรียนแคนนาดาบอกมีเพื่อนมัน เป็นแนวนี้ แต่นี้ก็ เซียนไปแล้ว แต่ถ้าผมทำแบบนี้ ปานนี้ผมคงวางมือไปก่อนหน้านี้นานแล้ว

  2. Learn by yourself with the use of DVDs, online tutorials, and books อันนี้สำหรับพวกของเยอะ มีทุนซื้อเยอะ แต่ระวังเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ มีแต่ไม่เคยทำตาม แล้วก็สะสมไว้เรื่อยๆ ดูไม่หมด ทำตามไม่เคยสำเร็จสักแผ่น (อย่างผมเป็นตน) ส่วนเจ้าไหนดี ก็เคยพูดไปบ้างใน blog นี้

    อันนี้ขอเล่านิดหนึ่ง ตอนเรียนที่ TOT อาจารย์เกาหลี แกก็ไม่เก่ง 3d มาก แต่แก แกะพวกนี้เก่งมากๆ ประมาณก่อนจะสอนแกก็หาสุดยอด Tutorail มาดู แล้วก็ทำตาม จากนั้นมาประยุกต์ให้เหมาะกับการสอน แล้วก็สอน เมื่อก่อนผมคิดว่า อย่างนี้ใครก็สอนได้ ที่ไหนได้ จนวันนี้ บ้างตัวมันยาก รวมทั้งความฮึด อดทนผมคงน้อยกว่าอาจารย์ผมเยอะ เลย ไม่สำเร็จเท่าไร รวมทั้งผมเคยลองให้ลูกศิษย์ใช้วิธีนี้ มันกับไปทำสัปดาห์เดียว เจอกันอีกที่ บอกยังไม่ผ่าน ครึ่งแผ่นเลยก็เลิกแล้ว อย่างน้อย ความอดทนผมสูงกว่าลุกศิษย์นิดนึง

  3. Take a specialized course in 3D อันนี้สำหรับผม ดีมาก ผมเรียนกับ TOT แม้ 1 ปี ผมรู้สึกได้ไม่มากเท่าไร แต่เพื่อนผมบอก 1 ปีเอ็ง เท่ากับ 5 ปี มัน

    ในปัจจุบันก็มีทั้งสถาบันที่รับสอนเฉพาะทาง และมหาวิทยาลัยสอนหลากหลายที่ แต่ผมพบกับความจริงอย่างว่า 4 ปี ถ้านักศึกษาไม่ขยัน มันอาจไร้ค่ามาก จบแล้วอาจไม่เป็นอะไรเลยก็ได้ เพื่อนผมสอบเด็กที่ แทบร้องไห้เพราะบางครั้งความกระตือรือร้นเด็กมันหายไป ส่วนผม การสั่งการบ้านเป็นอะไรที่ทรมานมาก แทบไหว้เด็ก ให้ทำมาเถอะครับ ไม่ทำมันไม่เป็น หรือเจอเด็กบางคนมาบอก อาจารย์สอนไปเถอะครับ ผมฟังอย่างเดียวก็เข้าใจแล้ว ผมอยากบอกว่า ฟังไม่พอหรอก พวกนี้ต้องทำจริงๆ ถึงจะเป็น สำหรับผม ใครที่ทำงานไป แล้วยังเปิดหนังสืออยู่ หรือเรียกให้คนอื่นมาทำให้ ยังไม่ถือว่าเป็นนะครับ

    อีกอย่างที่อยากให้คิด คือ ค่าเรียนมันแพงนะครับ เมืองไทยก็หลักหมื่น ในมหาลัย อย่างน้อยก็ 8 เทอมขึ้นไป ราคาไม่ถูกนะครับ ยิ่งไปเรียนเมืองนอก รับรอง แสนปลายๆ ครับ เรียนแล้วก็อยากให้คุ้มค่ากับเงินที่พ่อแม่หามาให้ผลาญ อย่าเค้าเงินนั้นไปสนุกกับเพื่อนอย่างเดียว ให้ได้ความรู้กลับมามากที่สุดที่ทำได้

  4. One-on-one tutoring อันนี้ ดีที่สุดสำหรับผม ช่วงชีวิตที่เรียนใน TOT อาจารย์เกาหลี ได้เป็นอาจารย์ที่สละเวลาชีวิตส่วนตัวมาก ไม่รู้แกนอนวันละกี่ชั่วโมง

    แบบเวลาสงสัยตอนเที่ยงคืนวิ่งไปเคาะห้อง ก็ตื่นที่สำคัญดันสอนให้ถึง 6 โมงเช้า พร้อม มาม่าเกาหลีอร่อยมาก แล้ว 9 โมงก็มาสอนในห้องตามปกติ ซึ่งเป็นช่วงที่ผมเรียนรู้หลักสำคัญได้อย่างมากในการสอนตัวต่อตัว ประเภทนี้คือ ทำ แล้วติด ถาม ความผิดพลาดในขณะทำโดนแก้ไขทันที โดยผู้สอน ไม่ต้องไปเปิด Help หาในgoogle เป็นอะไรที่สุดยอดที่สุด แต่ผมว่ามันก็หายากที่สุดเหมือนกัน

  5. Using a combination of the above ใช้ทุกอย่างรวมกัน ถ้าทำได้ ลองจินตนาการดูว่า นักศึกษาคนหนึ่ง ไปเรียนทำ CG โดยเฉพาะ กลับมาห้องอ่านหนังสือ ดู DVD แล้วทำตาม และมีความสามารถอยากรู้อยากเห็นว่าโปรแกรมนี้ทำไรได้ สนใจศึกษาหลักการศิลปะ ใฝ่รู้การเขียนภาษา C++ หรือ Python แล้วมีเพื่อน รุ่นพี่ หรืออาจารย์ ที่ช่วยแก้ปัญหาให้ในเวลาติดข้อสงสัยที่ไม่สามารถแก้ไขได้จริงๆ เนี่ยละครับ ลองคิดดู ว่า เด็กคนนี้จะเป็น บุคคลกรที่มีคุณภาพต่อวงการและประเทศขนาดไหน


โดยการเลือกนั้นขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตของเรา หรือความสะดวก ที่เหมาะสมกับเราที่สุด ซึ่งผมเห็นว่าถ้าเรามีความสามารถในการเรียนเราสามารถไปถึงสิ่งที่เราต้องการได้อยู่แล้วครับ ของให้ท่านสนุกกับสิ่งที่ท่านอยากเรียนรู้นะครับ

ผมไม่ได้อ่านอย่างละเอียดนะครับ นำหัวข้อแล้วมาอธิบายจากประสบการณ์ตัวเอง แต่มีข้อความหนึ่งที่เห็นสะดุดคือ "I spent about two years of between 14 and 20 hours a day of constant study when I started out" (Robson,8,2008)

แม้ในการเรียนผมอาจไม่ใช่เวลามากขนาดนี้ แต่วันหนึ่งผมก็อยู่หน้าคอมเกิน 12 ชั่วโมงแน่นอน แต่ผมต้องนอนอย่างน้อย 8 ชั่วโมง แต่ช่วงโหมงานหนักอย่างไรก็เกือบ 20 ชั่วโมงจริงๆ นอนในห้องเรียน ตลอดเวลาเกือบปี แต่ก็เป็นช่วงที่สนุกที่สุด และมีความทรงจำที่ดี แม้ตอนนี้ทุกอย่างไม่มีวันกลับไปได้อีกแล้ว

แต่นั้นก็เป็นสิ่งที่ผมยังคิดถึงเสมอ เวลาเราเจองานยากๆ ก็จะกลับคิดได้ว่า เราเคยทำงานที่หนักและยากกว่านี้มาแล้ว เป็นการฝึกความอดทนอีกแบบหนึ่งครับ

ถ้าคุณทำได้ อย่างไร ก็ต้องพัฒนาไปจนคิดไม่ถึงว่าจะทำได้ ผมอยากให้ใครที่รักงาน CG ได้ฝึกฝนตัวเองเรียนรู้มากๆ เพื่อตัวของเราเองครับ ไม่อยากให้มาด้วยความชอบแล้วก็ไม่ทำไรเลย แล้วบอกว่าเป็น CG artists พวกนี้สร้างความวุ่นวายให้กับคนทำงานด้วยอย่างมาก และสร้างความชิบหายให้กับการทำธุรกิจมานักต่อนักแล้ว แถมทำให้พวกที่เก่งๆ ลำบากไปด้วย

สุดท้ายผมอยากให้ทุกคนหาความรู้ให้มาก ทำให้เยอะ ดูงานคนอื่นมากๆ แล้วอย่ากลัวว่าทำไม่ได้ ให้กลัวว่าไม่ได้ทำ ดีกว่าครับ

2 ความคิดเห็น:

  1. โหยยย

    อยากเรียนแบบ
    One-on-one tutoring
    บ้างจัง

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ14 ธันวาคม 2553 เวลา 13:10

    "เวลาเราเจองานยากๆ ก็จะกลับคิดได้ว่า เราเคยทำงานที่หนักและยากกว่านี้มาแล้ว" ชอบประโยคนี้มากครับ

    ตอบลบ